ผู้ใช้งานเครน หรือสถานประกอบการที่มีการใช้เครน ส่วนใหญ่ต่างก็รู้กันว่า ต้องมีการตรวจสอบเครนอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการตรวจสอบรายเดือนจากทีมช่างของสถานประกอบการ และตรวจสอบประจำปีจากทีมให้บริการภายนอก (กฎหมาน) เพื่อเป็นการดูแลรักษาความปลอดภัยในสถานประกอบการที่มีการใช้งานเครนในการยกและขนย้ายสิ่งของหนัก การตรวจสอบเครนอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่จะช่วยให้การใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นไปอย่างปลอดภัย แต่ยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของทั้งพนักงานและองค์กรด้วย
แต่ถึงอย่างนั้น มีนายจ้างจำนวนไม่น้อยที่ละเลยการตรวจสอบเครนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในประเทศไทยซึ่งมีข้อบังคับทางกฎหมายชัดเจนในเรื่องการตรวจสอบอุปกรณ์ยกขน วันนี้ผมได้รวมสรุปโทษตามกฎหมาย หากนายจ้างไม่จัดให้มีการตรวจสอบเครน และเหตุใดการตรวจสอบเครนจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรถูกมองข้าม
ความสำคัญของการตรวจสอบเครน
เครน เป็นอุปกรณ์ที่ถูกใช้ในการยกขนสิ่งของหนักหรือขนาดใหญ่ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การก่อสร้าง การผลิต การขนส่ง และอุตสาหกรรมอื่น ๆ การที่เครนมีการทำงานอย่างถูกต้องและปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากหากเครนเกิดขัดข้องหรือชำรุดขณะใช้งาน อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงได้ ซึ่งอาจส่งผลให้มีการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินของสถานประกอบการ
การตรวจสอบเครนควรทำโดยวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญที่มีใบรับรอง ให้เป็นผู้ตรวจสอบเครนตามกฎหมาย โดยกระบวนการตรวจสอบนั้นจะครอบคลุมหลายส่วนของเครน เช่น การตรวจสอบความสมบูรณ์ของโครงสร้าง การทำงานของระบบไฮดรอลิกส์และระบบยกขน ตลอดจนความพร้อมใช้งานของอุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ เช่น ระบบเบรกและระบบเตือนภัย
กฎหมายเกี่ยวกับการตรวจเครน ในประเทศไทย
ในประเทศไทย การตรวจสอบเครนถูกกำหนดไว้ในกฎหมายอย่างชัดเจนตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 ซึ่งได้กำหนดให้นายจ้างต้องม่การตรวจเครน มีกำหนดขนาดพิกัดขนาดยก ตามลักษณะของปั้นจั่น การทดสอบการรับน้ำหนักปั้นจั่น กำหนดน้ําหนักที่ใช้ทดสอบการยก
นอกจากนี้ยังมี กฎกระทรวงว่าด้วยความปลอดภัยในการใช้เครื่องจักร พ.ศ. 2552 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยกฎกระทรวงนี้ ได้กำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้มีการตรวจสอบส่วนประกอบและอุปกรณ์ของปั้นจั่นอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง โดยการตรวจสอบนี้ต้องสอดคล้องกับประเภทและลักษณะของงานที่ปั้นจั่นถูกใช้งาน ซึ่งการตรวจสอบจะต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีประกาศกำหนด
โทษตามกฎหมายหากไม่จัดให้มีการตรวจสอบเครน
นายจ้างที่ไม่จัดให้มีการตรวจสอบเครนตามที่กฎหมายกำหนด จะต้องรับผิดชอบตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 โดยมาตรา 53 ระบุว่า หากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 8 หรือไม่จัดให้มีการตรวจสอบอุปกรณ์ยกขนตามข้อกำหนด นายจ้างต้องรับโทษทางกฎหมาย ซึ่งประกอบด้วยโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การไม่ตรวจสอบเครนตามกฎหมายสามารถส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในสถานประกอบการ ดังนั้นการลงโทษที่ถูกกำหนดขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้นายจ้างรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของพนักงานและสภาพแวดล้อมในการทำงาน การตรวจสอบเครนเป็นการป้องกันปัญหาตั้งแต่ต้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่อาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรง
ผลกระทบจากการไม่ตรวจเครน
- ความเสียหายต่อทรัพย์สิน: หากเครนที่ไม่ได้รับการตรวจสอบเกิดความขัดข้องหรือชำรุดระหว่างการใช้งาน อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งของหรืออาคารที่เครนกำลังขนย้ายหรือยกอยู่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนของสถานประกอบการ
- ความเสี่ยงต่อชีวิตและสุขภาพของพนักงาน: การใช้งานเครนที่ไม่มีการตรวจสอบความปลอดภัยอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของผู้ปฏิบัติงาน และทำให้พนักงานเกิดความวิตกกังวลต่อความปลอดภัยในการทำงาน หากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง เช่น เครนหล่นหรือยกขนผิดพลาด อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้
- ถูกฟ้องร้องทางกฎหมาย: หากเครนที่ไม่ได้รับการตรวจสอบเกิดอุบัติเหตุและทำให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต นายจ้างอาจถูกฟ้องร้องทางกฎหมาย โดยผู้เสียหายหรือครอบครัวของผู้เสียชีวิตอาจเรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
- ผลกระทบต่อชื่อเสียงขององค์กร: การเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานเครนที่ไม่ได้รับการตรวจสอบอาจทำให้ชื่อเสียงขององค์กรเสื่อมเสีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและคู่ค้า
กระบวนการตรวจสอบเครนตามกฎหมาย
การตรวจสอบเครนเป็นกระบวนการที่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด การตรวจสอบต้องครอบคลุมทั้งการตรวจสอบก่อนการใช้งาน การตรวจสอบรายเดือน และการตรวจสอบประจำปี โดยกระบวนการตรวจสอบที่ถูกต้องจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเครนสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย ซึ่งการตรวจสอบเครนสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้
- ตรวจสอบก่อนการใช้งาน นายจ้างต้องจัดให้มีการตรวจสอบเครนทุกครั้งก่อนการใช้งานเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งที่ชำรุดหรือบกพร่อง การตรวจสอบนี้สามารถทำโดยผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับการฝึกอบรมและมีความเชี่ยวชาญในการใช้งานเครน
- ตรวจสอบปั้นจั่นรายเดือน เป็นการตรวจสอบที่ต้องดำเนินการเป็นประจำทุกเดือนเพื่อให้แน่ใจว่าเครนยังคงอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน การตรวจสอบรายเดือนต้องดำเนินการโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่มีใบรับรอง และผลการตรวจสอบต้องจัดทำเป็นเอกสารเพื่อเก็บบันทึกไว้
- ตรวจสอบเครนประจำปี การตรวจสอบประจำปีเป็นการตรวจสอบที่ละเอียดมากขึ้น ซึ่งครอบคลุมทั้งการตรวจสอบโครงสร้างภายนอกและภายในของเครน รวมถึงระบบการทำงาน การตรวจสอบนี้ต้องทำโดยวิศวกรที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
วิธีปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อลดความเสี่ยง
- จัดการตรวจสอบเครนอย่างสม่ำเสมอ: นายจ้างควรจัดให้มีการตรวจสอบเครนตามข้อกำหนดที่กฎหมายกำหนด โดยใช้วิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาตในการตรวจสอบอุปกรณ์ยกขน เพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานของเครนเป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดภัย
- บันทึกข้อมูลการตรวจสอบ: นายจ้างต้องเก็บบันทึกการตรวจสอบเครนไว้เป็นหลักฐานอย่างเป็นระบบและสามารถเรียกตรวจสอบได้เมื่อต้องการ นอกจากนี้ยังควรบันทึกการบำรุงรักษาและการซ่อมแซมที่เกี่ยวข้องกับเครนด้วย
- ฝึกอบรมพนักงาน: พนักงานที่ปฏิบัติงานกับเครนควรได้รับการฝึกอบรม เกี่ยวกับการใช้งานอุปกรณ์ยกขนอย่างถูกต้องและปลอดภัย เครน อบรมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง หรือการขาดความรู้เกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์เครน
บทสรุป
การตรวจสอบเครนเป็นขั้นตอนสำคัญที่นายจ้างต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการละเลยในการตรวจสอบอาจนำไปสู่อุบัติเหตุที่ร้ายแรง และทำให้ต้องรับโทษทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา การจัดการตรวจสอบเครนเป็นประจำและบันทึกผลการตรวจสอบเป็นสิ่งที่ช่วยให้การทำงานในสถานประกอบการเป็นไปอย่างปลอดภัย และช่วยป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น